
099-2415545 |
อายุมากขึ้น กระดูกอ่อนแอลง ระวัง กระดูกพรุน ![]() อายุมากขึ้น กระดูก อ่อนแอลง
เป็นอวัยวะที่มีชีวิต: จึงยังต้องการสารอาหารเฉพาะ และมีการทำงานผลัดเซลล์เนื้อเยื่อกระดูกเก่าออกแล้วเติมเซลล์เนื้อเยื่อกระดูกใหม่ตลอดเวลา โดยมีเซลล์สร้างกระดูกและเซลล์สลายกระดูกทำงานร่วมกัน ในร่างกายคนเรามีกระดูกจำนวน 206 ชิ้น ทำหน้าที่เป็นโครงร่างของร่างกาย ป้องกันอันตรายให้อวัยวะภายใน และช่วยในการเคลื่อนไหว ซึ่งองค์ประกอบถึง 2 ใน 3 ส่วนของกระดูกคือ แร่ธาตุ และยังมีโปรตีน คอลลาเจน น้ำ โดยแร่ธาตุที่พบมากที่สุดในกระดูกถึง 90% คือ แคลเซียม ซึ่งจำเป็นต่อความแข็งแรงของกระดูก นอกจากนั้นแคลเซียมยังเป็นองค์ประกอบหลักในเนื้อฟันและเคลือบฟันด้วย การกินอาหารที่อุดมด้วยแคลเซียมสม่ำเสมอทุกวันจึงเป็นการส่งเสริมสุขภาพกระดูกและฟันของคนทุกวัย ร่างกายเราไม่สามารถสร้างแคลเซียมเองได้ ต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น ซึ่งใน 1 วัน ควรได้รับแคลเซียม 800-1000 มิลลิกรัม แต่สถิติพบว่า คนไทยได้รับแคลเซียมเฉลี่ยเพียงวันละ 361 มิลลิกรัม หรือแค่ 45% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวันซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์แนะนำ และยังพบว่าร่างกายสามารถย่อยและดูดซึมแคลเซียมจากอาหารที่กินได้เพียง 25-30% เท่านั้น รวมถึงการกินแคลเซียมปริมาณมากๆ ในครั้งเดียว อัตราการดูดซึมอาจน้อยกว่ากินแคลเซียมในปริมาณที่เหมาะสม ดังนั้นเพื่อให้ได้แคลเซียมเพียงพอต่อวัน ควรกินในปริมาณที่พอเหมาะและกินอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงกินร่วมกับวิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยเสริมการดูดซึมแคลเซียมด้วย เช่น วิตามินดี แมกนีเซียม เป็นต้น วัยเปลี่ยน... กระดูก เปลี่ยน วัยเปลี่ยน..กระดูกเปลี่ยน: ในแต่ละวัย กระดูกจะมีการพัฒนาที่ต่างกันไป แต่ต้องใช้แคลเซียมในทุกวัย โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงวัยเด็ก ซึ่งเป็นช่วง “วัยสร้างกระดูก (Bone Building)” ในช่วงนี้กระดูกจะมีการเติบโต ทำให้ความสูงเพิ่มขึ้น จนถึงอายุประมาณ 20 ปี ตามมาด้วย “วัยเสริมความแข็งแรงกระดูก (Bone Maximizing)” ในช่วงอายุ 20-30 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่มวลกระดูกหนาแน่นมากที่สุด หลังจากนั้นจะเข้าสู่ช่วง “วัยออมความแข็งแรงกระดูก (Bone Saving)” กระดูกจะเริ่มสลายมากกว่าสร้าง ทำให้เนื้อกระดูกลดลงอย่างช้าๆ ประมาณปีละ 0.5-1% และช่วงสุดท้าย “วัยถนอมกระดูก (Bone Preserving)” กระดูกจะสลายเร็วขึ้น ซึ่งเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนที่ลดลง โดยเฉพาะในหญิงวัยหมดประจำเดือน การลดลงของมวลกระดูกจะเพิ่มขึ้นเป็น 3-5% ต่อปี หลังจากนั้นจะลดลงช้าๆไปตลอดชีวิต ดังนั้นถ้ากระดูกไม่ได้รับสารอาหารสม่ำเสมอตั้งแต่แรก ความหนาแน่นของมวลกระดูกก็จะลดลงมาก จึงเป็นสาเหตุของ “กระดูกพรุน” กระดูกพรุน : ถูกขนานนามว่าเป็น “The Silent Disease โรคแห่งความเงียบ” เพราะเป็นความเสื่อมที่ไม่แสดงอาการให้เห็น จะทราบก็เมื่อกระดูกแตกยุบ ความสูงลด กระดูกผิดรูปไปแล้ว อาจส่งผลบาดเจ็บ ถึงพิการหรือเสียชีวิตได้ จัดเป็นโรคร้ายแรง 1 ใน 10 ที่คร่าชีวิตคนไทยอีกด้วย พบว่า 30% ของผู้หญิงไทยหลังหมดประจำเดือน และ 20% ของชายไทยอายุ 50ปีขึ้นไป มีภาวะกระดูกพรุน
สาเหตุ: เกิดจากการไม่ได้รับ แคลเซียมขาดแคลเซียม เพียงพอ จากอาหารอย่างต่อเนื่อง และพฤติกรรมทำร้ายกระดูกเช่น สูบบุหรี่ ดื่มกาแฟ ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป ไม่ค่อยออกกำลังกายหรือออกหนักเกินไป ภาวะขาดฮอร์โมนเพศทั้งหญิงและชาย และวัยที่เพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้เมื่อร่างกายได้รับแคลเซียมจากอาหารไม่เพียงพอ จะทำให้ปริมาณแคลเซียมในกระแสเลือดต่ำ ร่างกายจะมีกลไกหลั่งฮอร์โมนพาราไทรอยด์เพิ่มขึ้น ซึ่งจะก่อให้เกิดการดึงแคลเซียมออกจากกระดูก จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้กระดูกพรุนได้ บียอนด์ แอลจี้ แคลเซียม-ดี
DOCTORBUNG PONGSAKORNPAT·WEDNESDAY, AUGUST 17, 2016 เติมสารอาหาร...เสริมความแข็งแรงกระดูก (BONE FOOD FOR BONE MATTER) บียอนด์ แอลจี้ แคลเซียม-ดี ( beyonde AlGAE Calcium-D )
คือ อาหารเสริมแคลเซียม รูปแบบผงชง เพื่อเติมสารอาหารให้กระดูกและฟันแข็งแรง ครั้งแรกกับนวัตกรรม “แคลเซียม โปร-แอบซอร์พชัน (Calcium PRO-ABSORPTION)” ผสานแคลเซียมจากสาหร่ายทะเลสีแดง ชิโครี่ไฟเบอร์ และ วิตามินดี3 ชงดื่มง่าย รสอร่อยด้วยผงน้ำส้ม ไม่แต่งกลิ่นรสและสีสังเคราะห์ ไม่ใช้วัตถุกันเสีย
นวัตกรรม “แคลเซียม โปร-แอบซอร์พชัน (Calcium PRO-ABSORPTION)” คืออะไร ผลิตภัณฑ์เสริมแคลเซียมทั่วไป เน้นส่วนผสมของแคลเซียมจากหินปูน แต่ บียอนด์ แอลจี้ แคลเซียม-ดี แตกต่างด้วย แคลเซียมจากพืชคือสาหร่ายทะเลสีแดง และยังมีนวัตกรรม “แคลเซียม โปร-แอบซอร์พชัน” ซึ่งเป็น เทคโนโลยีการผสานสารอาหาร คือ แคลเซียมจากสาหร่ายทะเลสีแดง ชิโครี่ไฟเบอร์ และ วิตามินดี3 เพื่อปรับสภาพทางเดินอาหารให้ดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น โดยให้ผลลัพธ์ (1) ช่วยเสริมการดูดซึมแคลเซียมกลับเข้าสู่ร่างกายนานตลอด 24 ชั่วโมง (2) เพิ่มการดูดซึมแคลเซียมมากขึ้นเป็น 123% (3) ส่งเสริมจุลินทรีย์สุขภาพ ปรับสภาพทางเดินอาหาร จึงช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมจากอาหารมื้ออื่นๆ ด้วย ส่วนประกอบหลัก และประโยชน์ ใน 1 แพ็ค บรรจุ 15 ซอง โดย 1 ซอง บรรจุปริมาณ 15 กรัม ประกอบด้วย 1. แคลเซียมจากสาหร่ายทะเลสีแดง 850 มิลลิกรัม: แคลเซียมธรรมชาติที่ได้จากพืช วัตถุดิบนำเข้าจากแบรนด์ อะความิน (Aquamin) แหล่งผลิตจากประเทศไอร์แลนด์ (Ireland) ให้ปริมาณ ไบโอแอคทีฟ แคลเซียม 250 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นรูปแบบแคลเซียมที่ดูดซึมง่ายในร่างกาย มีส่วนช่วยในกระบวนการสร้างกระดูกและฟันที่แข็งแรง พร้อมแมกนีเซียม ช่วยการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ลดอาการตะคริว และแร่ธาตุอื่นๆ อีก 72 ชนิด ช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของแคลเซียมและแมกนีเซียม และมีส่วนช่วยสร้างสมดุลแร่ธาตุในร่างกาย เช่น ซิลิคอน ช่วยเพิ่มความหนาแน่นกระดูก เสริมสร้างคอลลาเจนที่กล้ามเนื้อกับกระดูก, แมงกานีส ช่วยในการเชื่อมข้อต่อของร่างกาย มีส่วนร่วมในการทำงานของเอนไซม์ในร่างกาย, ฟลูออไรด์ ช่วยทำให้กระดูกและเคลือบฟันแข็งแรง ป้องกันฟันผุ, ทองแดง ช่วยในกระบวนการสร้างกระดูก, สังกะสี และ เหล็ก ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย เป็นต้น จากการคัดสรรสาหร่ายทะเลสีแดง ชื่อว่า Lithothamnion calcareum (ลิโธแธมเนียน แคลคาเรียม) ซึ่งเติบโตตามธรรมชาติในทะเลเขตประเทศไอซ์แลนด์ (Iceland) บริเวณที่กระแสน้ำเย็นจากอาร์กติกและกระแสน้ำอุ่นจากมหาสมุทรแอตแลนติกมาบรรจบกัน และเป็นบริเวณที่น้ำทะเลมีความบริสุทธิ์สูง จึงเหมาะแก่การเจริญเติบโตของสาหร่ายทะเลสีแดงมากที่สุด ทำให้ได้แคลเซียมจากสาหร่ายทะเลสีแดงที่มีคุณภาพ พร้อมทั้งผ่านการเก็บเกี่ยวแบบยั่งยืน ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ตามมาตรฐานระดับโลก เพราะคัดสรรเฉพาะสาหร่ายที่จบวงจรชีวิตแล้ว โดยไม่รบกวนสาหร่ายที่อยู่ในช่วงการเจริญเติบโตและสืบพันธุ์ แคลเซียมจากพืชเป็นทางเลือกใหม่ ทดแทนข้อด้อยของแคลเซียมจากหินปูน ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแคลเซียมจากสาหร่ายทะเลสีแดง ซึ่งมีรูปผลึกโครงสร้างที่คล้ายเซลล์พืช ทำให้มีพื้นที่ผิวมากกว่าผลึกแคลเซียมทั่วไปที่สกัดได้จากหินปูนถึง 10 เท่า จึงสามารถ ละลายและดูดซึมนำไปใช้ได้ง่ายกว่า และไม่ทำให้เกิดอาการท้องผูก เหมือนแคลเซียมทั่วไปที่มาจากหินปูน ยืนยันด้วยบทพิสูจน์งานวิจัยของแคลเซียมจากสาหร่ายทะเลสีแดง - ช่วยป้องกันภาวะกระดูกพรุน - ลดความเสี่ยงการเกิดภาวะอักเสบข้อต่อ - ลดอาการปวดของกระดูกและข้อต่อในผู้ที่เป็นโรคข้อเสื่อม - ช่วยลดอาการสูญเสียแคลเซียมในกระดูกของผู้หญิงวัยหลังหมดประจำเดือน เมื่อดื่มร่วมกับใยอาหารชนิดละลายน้ำ - เพิ่มการดูดซึมแร่ธาตุให้เซลล์กระดูก - ช่วยป้องกันการสูญเสียแคลเซียมจากกระดูกขณะออกกำลังกาย การันตีด้วยรางวัลสุดยอดสารอาหารแห่งปี 2016 สาขา Healthy Ageing จากงาน NutraIngredients Awards 2016 ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นงานประกวดนวัตกรรมและวิจัยด้านอาหารเพื่อสุขภาพ สารอาหาร และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และได้รับมาตรฐานรับรองทั่วโลก ได้แก่ - มาตรฐานการผลิต ISO9001:2008, HACCP และ BRC - มาตรฐานสารอาหารที่มีความปลอดภัยจากอเมริกา (US FDA-notified GRAS, Generally Recognized As Safe status) - มาตรฐานสารอาหารไม่ถูกดัดแปลงทางพันธุกรรม (Non-GMO: Non-genetically modified) - มาตรฐานสารอาหารออร์แกนิคจากยุโรป (Certified for use in organic food systems EU) - มาตรฐานโคเชอร์ รับรองว่า ชาวยิวสามารถรับประทานได้ (Kosher) - มาตรฐานฮาลาล รับรองว่า ชาวมุสลิมสามารถรับประทานได้ (Halal) 2. ชิโครี่ไฟเบอร์ 8 กรัม: แหล่งใยอาหารธรรมชาติจากประเทศเบลเยี่ยม ได้รับการจดสิทธิบัตรถึง 17 ประเทศ สกัดจากส่วนหัวที่อยู่ใต้ดิน ให้ อินูลิน และ ฟรุคโตโอลิโกฟรุคโตส ซึ่งเป็นใยอาหารที่ละลายน้ำได้ ช่วยปรับสภาพทางเดินอาหาร เพื่อเสริมการดูดซึมแคลเซียมกลับสู่ร่างกายได้มากขึ้นและนานขึ้น ซึ่งโดยปกติแคลเซียมจะถูกดูดซึมที่ลำไส้เล็ก และดูดซึมน้อยมากที่ลำไส้ใหญ่ เนื่องจาก pH ที่ไม่เหมาะสม ทำให้ร่างกายได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอ ซึ่ง ชิโครี่ไฟเบอร์ จะช่วยปรับสภาพลำไส้ใหญ่ ให้ดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้นทั้งในลำไส้ใหญ่ส่วนต้นและส่วนปลาย บียอนด์ แอลจี้ แคลเซียม-ดี จึงช่วยเสริมการดูดซึมแคลเซียมกลับเข้าสู่ร่างกายนานตลอด 24 ชั่วโมง และเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมมากขึ้นเป็น 123% นอกจากนี้ชิโครี่ไฟเบอร์ยังเป็นพรีไบโอติก คือ เป็นอาหารของจุลินทรีย์สุขภาพในลำไส้ใหญ่ จึงช่วยเพิ่มจุลินทรีย์สุขภาพในลำไส้ใหญ่ซึ่งช่วยปรับสภาพทางเดินอาหาร ทำให้การดูดซึมแคลเซียมจากอาหารมื้ออื่นๆ เพิ่มขึ้นด้วย ทั้งยังปรับสมดุลระบบขับถ่ายให้ดีขึ้น ลดอาการท้องผูกได้อีกด้วย 3.วิตามินดี3 100 หน่วยสากล: รูปแบบที่สามารถดูดซึมและนำไปใช้ได้ดี โดยวิตามินดี3 เป็นวิตามินจำเป็นที่ช่วยส่งเสริมการดูดซึมแคลเซียมเพื่อสร้างกระดูก รักษาสมดุลแคลเซียมในกระดูก จึงป้องกันภาวะกระดูกพรุนจากการสูญเสียแคลเซียมจากกระดูก และยังส่งเสริมการทำงานของกล้ามเนื้อด้วย 4. ผงน้ำส้ม 300 มิลลิกรัม: จากส้มสายพันธุ์ Sweet orange ในทวีปอเมริกาใต้ เพิ่มรสส้ม อร่อย และดื่มง่าย 5. เบต้าแคโรทีน 1 มิลลิกรัม: สีส้มที่พบในธรรมชาติ ไม่เพียงให้สีสันน่าดื่มยิ่งขึ้น แต่เบต้าแคโรทีน ยังให้วิตามินเอ 555 หน่วยสากล มีส่วนช่วยในการบำรุงสายตาอีกด้วย ผลลัพธ์การรับประทาน บียอนด์ แอลจี้ แคลเซียม-ดี การวิจัยโดยบริษัทอินเทจ ประเทศไทย ทดสอบในอาสาสมัครสุขภาพดีเพศหญิงและชาย อายุ 30-70 ปี จำนวน 58 คน รับประทานผลิตภัณฑ์ วันละ 2 ซอง ต่อเนื่องเป็นเวลา 12 สัปดาห์ พบว่า สุขภาพโดยรวมดีขึ้น 97% /กระดูกและข้อต่อแข็งแรงเพิ่มขึ้น 97% / การเคลื่อนไหวสะดวก คล่องตัวมากขึ้น 95% /อาการปวดตามข้อ ปวดกระดูกลดลง 93% /ร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่าขึ้น 93% /ขับถ่ายเป็นเวลามากขึ้น 84% คำแนะนำวิธีรับประทาน บียอนด์ แอลจี้ แคลเซียม-ดี ละลายผลิตภัณฑ์ 1 ซอง (15 กรัม) ในน้ำธรรมดาหรือน้ำเย็น 120 มิลลิลิตร หรือน้ำครึ่งแก้ว โดยสามารถเพิ่มหรือลดปริมาณน้ำที่ผสม เพื่อปรับความเข้มข้นของรสชาติได้ตามชอบ และควรดื่มทันทีหลังจากชงแล้ว เหมาะสำหรับ เพื่อเสริมความแข็งแรงของกระดูกและฟัน - ผู้ที่ต้องการเสริมแคลเซียมให้กับร่างกาย - ผู้ที่มีปัญหาเมื่อกินแคลเซียมชนิดอื่น เช่น ท้องผูก 1ซอง/วัน เช้าหรือเย็น ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ เพื่อฟื้นฟูความแข็งแรงของกระดูกและฟัน - ผู้ที่ได้รับแคลเซียมต่อวันไม่พอ - ผู้ที่ไม่สามารถดื่มนมและผลิตภัณฑ์จากนม - ผู้ที่มีภาวะเสี่ยงกระดูกบางหรือกระดูกพรุน - ผู้ที่มีปัญหาเรื่องกระดูกและข้อ 2ซอง/วัน โดยแบ่งเป็น เช้า 1 ซอง และเย็น 1 ซอง ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ บียอนด์ แอลจี้ แคลเซียม-ดี เป็นผลิตภัณฑ์เสริมแคลเซียมให้กับร่างกาย จึงสามารถรับประทานได้ทุกวัน แนะนำรับประทานวันละ 1-2 ซอง เพื่อเสริมแคลเซียมร่วมกับการกินอาหารที่มีประโยชน์ โดยสามารถรับประทานแคลเซียมชนิดผงชงได้ถึงวันละ 4 ซองเพื่อให้ได้แคลเซียมวันละ 1000 มิลลิกรัม แต่อย่างไรก็ตาม ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์มากกว่าการพึ่งพาแคลเซียมจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพียงอย่างเดียว ทั้งนี้เด็กสามารถเริ่มรับประทานได้ตั้งแต่อายุ 4 ปีขึ้นไป โดยมีคำแนะนำดังนี้ -อายุ 4-10 ปี รับประทานไม่เกินวันละ 1 ซอง |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |